Skip to main content

รีวิว Vikings: Valhalla ไวกิ้ง: วัลฮัลลา (2022) สานต่อตำนานไวกิ้ง

Vikings: Valhalla ไวกิ้ง: วัลฮัลลา (2022)  จาก Netflix ภาคแยกจากออริจินัลซีรีย์ ไวกิ้ง Vikings ยังคงเป็นเรื่องราวของชาวไวกิ้งแต่เป็นช่วงเวลาร้อยปีหลังจากยุค แรกนาร์ ลอธบร็อค ที่ชาวไวกิ้งในอังกฤษถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในวันนักบุญไบรซ์ เป็นผลงานของนักเขียนบทและผู้สร้างชื่อดังอย่าง Jeb Stuart 


เรื่องราวสานต่อตำนานไวกิ้ง ที่เริ่มจาก แรกนาร์ ลอธบร็อค ชาวไวกิ้งผู้บุกเบิกการเดินทางไปยังฝั่งตะวันตก ผ่านไปร้อยปี ชาวไวกิ้งได้ตั้งรกรากในประเทศอังกฤษ ในพื้นที่เดนลอว์ ดินแดนที่กษัตริย์อังกฤษจัดพื้นที่ให้เหล่าไวกิ้งอาศัยอยู่ เพื่อจะได้สามารถอยู่ร่วมกับคนอังกฤษได้อย่างสงบสุข แต่ในวันนักบุญไบรซ์ (St. Brice's Day) กษัตริย์เอเธลเรดที่สองของอังกฤษ สั่งฆ่าล้างบางชาวไวกิ้งทั้งหมดที่อยู่ในดินแดนอังกฤษ สร้างความโกรธแค้นให้ชาวไวกิ้งที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ พี่น้อง และลูกหลาน ของตนเองไป เมื่อข่าวไปถึงกษัตริย์คนุต กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก เขาจึงประกาศรวบรวมชาวไวกิ้ง เพื่อสร้างกองทัพแก้แค้นกษัตริย์ของอังกฤษ โดยให้มารวมตัวกันที่เมือง คัตเทกัต ในการรวมพลครั้งนี้มีเจ้าชายฮารัลด์ ซิเกอร์ดซัน แห่งนอร์เวย์ เพราะอยากแก้แค้นให้พี่ชาย สเตน ที่ถูกกษัตริย์เอเธลเรดที่สองฆ่าในวันนักบุญไบรซ์   ฮารัลด์จึงเข้าร่วมกองทัพของกษัตริย์คนุต



โดยรวมสำหรับชื่อเรื่อง ไวกิ้ง: วัลฮัลลา หลายคนอาจสงสัยความหมายของคำว่า วัลฮัลลา มันเป็นความเชื่อของชาวไวกิ้ง ที่นับถือเทพเจ้าโอดิน เชื่อว่าถ้าตายอย่างกล้าหาญ โอดินจะมารับวิญญาณนักรบผู้กล้าไปวัลฮัลลา เพื่อร่วมฉลองกับโอดินและเหล่าทวยเทพ ดังนั้นก่อนตายชาวไวกิ้งมักจะอธิษฐานขอให้ได้ไปวัลฮัลลา  ผู้คนต่างกระหายอยากรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์สงครามของชาวไวกิ้ง กลุ่มคนป่าเถื่อนทางเหนือของซีกโลก รูปร่างตัวสูงใหญ่ นับถือเทพเจ้าโอดิน ธอร์ เฟรยาฯลฯ ออกปล้นสะดม ล่าสมบัติด้วยเรือไม้ที่ต่อเอง (เรือไวกิ้ง) เก่งกาจขนาดสามารถบุกไปรุกรานไกลถึงประเทศอังกฤษ ทำให้ในปี 2019 Netflix ประกาศสร้าง Vikings: Valhalla เพื่อสานต่อตำนานไวกิ้ง โดยครั้งนี้เป็นเรื่องราวการล้างแค้นของกลุ่มไวกิ้งทั้งพวกนอกรีตและพวกที่นับถือศาสนาคริสต์ ถึงจะไม่ถูกใจกันเพราะความเชื่อที่ต่างกัน แต่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันคืออยากล้างแค้นให้กับพี่น้องชาวไวกิ้งที่ถูกชาวอังกฤษสังหารหมู่อย่างไม่ยุติธรรม จนเกิดเป็นสงครามระหว่างอังกฤษและชาวไวกิ้ง



โดยสรุปเนื้อเรื่องเข้มข้น ชิงไหวชิงพริบ น่าติดตาม เล่าเรื่องได้น่าติดตามต่อเนื่อง นอกจากเนื้อเรื่องการสู้รบการทำสงคราม ยังสอดแทรกด้วยเรื่องศาสนา ความเชื่อ ที่ทำให้ชาวไวกิ้งต้องต่อสู้กันเอง เพราะส่วนหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษ ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งยังคงเป็นกลุ่มที่นับถือเทพเจ้าโอดิน ธอร์ เฟรยาฯลฯ อยู่ ส่วนตัวคิดว่าทำออกมาได้ลงตัว ดูน่าสนใจมากกว่าน่าเบื่อ ใครเป็นแฟนซีรีย์ไวกิ้ง หรือชอบแนวประวัติศาสตร์ยุโรป วางแผนกลยุทธ์ต่อสู้ สงครามย้อนยุค ไม่น่าพลาดเรื่องนี้

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังใหม่ชนโรง 2022 ได้ที่นี่

Comments

Popular posts from this blog

รีวิว The Coldest Game ( เกมลับสงครามเย็น ) อิงประวัติศาสตร์สงครามเย็น

The Coldest Game – เกมลับสงครามเย็น Netflix ภาพยนตร์อาชญากรรมคุณภาพและชาญฉลาด อิงประวัติศาสตร์สงครามเย็น ผ่านการแข่งขันหมากรุกระหว่างสองชาติมหาอำนาจของโลก ภาพยนตร์ระทึกขวัญจากประเทศโปแลนด์ โดย Netflix เรื่องราวเกี่ยวกับยุคสงครามเย็น ดำเนินเรื่องโดย Joshua Mansky อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ เขาได้เป็นตัวแทนสหรัฐในการแข่งขันหมากรุกกับสหภาพโซเวียต แต่ในการแข่งขันมีอะไรที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองและสถานการณ์ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้น การหาตัวคนทรยศภายในทีม และหาทางหยุดความขัดแย้งระดับโลกนี้ไว้ เรื่องราว ในปีพ. ศ. 2505 ในช่วงสงครามเย็นนักหมากรุกชาวอเมริกันโจชัวแมนสกี เดินขึ้นไปบนเวทีไปยังโต๊ะที่คู่ต่อสู้ของโซเวียตนั่งอยู่แมนสกีเข้าร่วมกับคู่ต่อสู้ของเขาและมองไปที่มือที่เปื้อนเลือดของเขาเองอย่างประหม่า เจ็ดวันก่อนหน้านี้แมนสกีอยู่ในบาร์และปิดการรายงานข่าวทางทีวีเกี่ยวกับการแข่งขันหมากรุกระหว่างปรมาจารย์ชาวอเมริกันจอห์นโคนิกส์เบิร์กและยูริกราฟริรอฟผู้ท้าชิงของโซเวียต เขาชนะเกมไพ่ในขณะที่ล้อเล่นเกี่ยวกับซาร์บอมบาแห่งโซเวียต เมื่อแมนสกีออกจากบาร์เขาก็ถูกลักพาตัวไปในรถ จากนั้นเขาก็ถู...

รีวิว Saimdang, Memoir of Colors (ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์)

แนะนำซีรีย์พีเรียด  อิงประวัติศาสตร์  ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์ (Saimdang, Light's Diary)  เป็นซีรีย์ที่สร้างขึ้นจากจินตการโดยนำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอ้างอิง เนื้อหาในละครกล่าวถึง "ซอ จียุน" ผู้บรรยายวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์เกาหลีที่มหาวิทยาลัยฮันกุก ซึ่งอุทิศตนให้กับการศึกษาและวิจัยหมายได้มาซึ่งปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (วุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก) นอกจากนี้ เธอยังทุ่มเททำงานให้ศาสตราจารย์ "มิน จองฮัก" คณะบดีประจำคณะศิลปศาสตร์ (และอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ)  ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมว่าสักวันจะถูกแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลป์เกาหลีที่มหาวิทยาลัย โดยเรื่องราวเหตุการณ์ของสองภพคู่ขนาน คือ ยุคปัจจุบัน และ ยุคโชซอน โดยตัวเชื่อมโยงที่ร้อยเรื่องถึงกัน ก็คือ โบราณวัตถุล้ำค่าของชาติชิ้นหนึ่ง ที่เป็นภาพจิตรกรรมในยุคโชซอน ชื่อภาพว่า กึมกังซันโด ซึ่งเป็นภาพวาดภูเขากึมกังซาน (ซาน หรือซัน แปลว่าภูเขา กึมกังในปัจจุบันอยู่ทางตอนใต้ของเกาหลี มีสวนกึมกังที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองพูซานด้วย) อียองแอ นางเอกของเรา รับบทเป็น ชินซาอิมดัง ในยุคโชซอน และ รับ...

แนะนำซีรีย์ Snowdrop (2021) รักผลิบานท่ามกลางสมรภูมิการเมือง

Snowdrop (2021) นำแสดงโดย ชองแฮอิน และ จีซู BLACKPINK เป็นซีรีย์แนวโรแมนติก ดราม่า การเมือง เรื่องเกิดขึ้นในปี 1987 ซูโฮ (รับบทโดย ชองแฮอิน) นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ไปปรากฎตัวอยู่ที่หอพักหญิงในมหาวิทยาลัยสตรีด้วยสภาพตัวเต็มไปด้วยเลือด ยองโร (รับบทโดย จีซู BLACKPINK) นักศึกษาที่อยู่หอใน ได้ซ่อนตัว ซูโฮ และช่วยรักษาบาดแผล เรื่องราวของชายหนุ่มคนนึงที่ได้รับบาดเจ็บและได้แอบเข้าไปในหอพักหญิงเพื่อซ่อนตัว โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากนักศึกษาหญิงคนหนึ่งซึ่งให้ที่ซ่อนตัวกับเขาเพื่อให้รอดพ้นจากอันตราย ส่งผลให้ทั้งคู่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อที่จะหนีให้พ้นจากอันตรายที่ตามมาติดๆ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในกรุงโซลเมื่อปี 1987 โดย “จองแฮอิน” ที่สวมบทเป็นชายปริศนา “ลิมซูโฮ” ได้หลบซ่อนความเจ็บปวดและความเศร้าจากสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้เป็นความลับผ่านมู้ดแอนด์โทนของโปสเตอร์ ส่วน “จีซู” ซึ่งสวมบทเป็น “อึนยองโร” ดูสวยมากๆกับคาแรกเตอร์โปสเตอร์ใบนี้ ซึ่งภายใต้ความสวยก็แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลผ่านทางสีหน้าและแววตาของเธอได้เป็นอย่างดีด้วย ซึ่งแฟนๆต่างก็อยากที่จะชมซีรีย์เรื่องนี้เพื่อที่จะดูว่า “จีซู” จะพลิ...