Skip to main content

แนะนำภาพยนตร์ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครบทั้ง 6 ภาค

หากจะเอ่ยถึงหนังอิงประวัติศาสตรเรื่องยิ่งใหญ่ในวงการหนังไทยที่กลายมาเป็นแฟรนไชส์หนังชุดมหึมา คงจะหนีไม่พ้นความอลังการของหนังชุด "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่กอบกู้อิสรภาพให้กับไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และยังทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทยออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทั้งสี่ทิศของคาบสมุทรมลายู

เรื่องราวที่ถูกจารึกของพระองค์ได้ถูกตีแผ่ออกมาเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ฉบับสมบูรณ์ 6 ภาค ที่ดำเนินเรื่องมาตั้งแต่ขณะทรงพระเยาว์ ผ่านศึกสงครามมาหลายเหตุการณ์ ผ่านมุมมองการถ่ายทอดเรื่องราวของ "หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล" และทีมงานระดับนานาชาติ ร่วมด้วยนักแสดงชั้นนำทั่วฟ้าเมืองไทย นี่จึงกลายเป็นหนึ่งแฟรนไชส์หนังไทยอันทรงคุณค่า อัดแน่นด้วยสาระความบันเทิง และเป็นหนังไทยที่มีการใช้งบประมาณสร้างที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว 


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๑ องค์ประกันหงสา (2550) ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาคองค์ประกันหงสา พุทธศักราช 2106 พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงกรีฑาทัพเข้าตีราชอาณาจักรอยุธยาทางด่านระแหงแขวงเมืองตาก ทัพพม่ารามัญซึ่งมีรี้พลเหลือคณานับได้เข้ายึดครองหัวเมืองฝ่ายเหนือของราชอาณาจักรอยุธยา


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ (2550) พ.ศ. 2114 “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” ซึ่งพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระมหินทราธิราชได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นอุปราชครองเมืองพิษณุโลก


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี (2554) การประกาศเอกราชที่เมืองแครง และสังหารสุระกำมาเหนือยุทธภูมิฝั่งแม่น้ำสะโตงของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” (สมเด็จพระนเรศ) ในปีพุทธศักราช 2127 ได้สร้างความตระหนกแก่ “พระเจ้านันทบุเรง” องค์ราชันหงสาวดีพระองค์ใหม่ ด้วยเกรงว่าการแข็งข้อของอยุธยาในครั้งนี้จะเป็นเยี่ยงอย่างให้เหล่าเจ้าประเทศราชที่ขึ้นกับหงสาวดีอาศัยลอกเลียนตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม แต่จนพระทัยด้วยติดพันศึกอังวะ จึงจำต้องส่งเพียงทัพ “พระยาพะสิม” และ “พระเจ้าเชียงใหม่” เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ทางหนึ่งนั้นพระเจ้านันทบุเรงทรงประมาทสมเด็จพระนเรศ ด้วยเห็นว่ายังอ่อนพระชันษาคงมิอาจรับมือจอมทัพผู้ชาญณรงค์ทั้งสองได้ ทางหนึ่งก็สำคัญว่ากรุงศรีอยุธยายังบอบช้ำแต่คราวสงครามเสียกรุง ไพร่พลเสบียงกรังยังมิบริบูรณ์คงยากจะรักษาพระนคร


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง (2554) ผลจากการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึกพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งทำให้พระเจ้านันทบุเรงทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวร และในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยาม กองทัพกษัตริย์ของพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงมีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก ประกอบด้วยช้าง 3,200 ทัพม้า 12,000 และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง 252,000 โดยมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถมาร่วมรบ ทั้งพระมหาอุปราชา มังจาปะโร และลักไวทำมูทหารกล้า โดยพระเจ้าหงษาวดีตั้งทัพหลวงทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่ขนอนปากคู ทัพมังมอดราชบุตร์กับพระยาพระรามตั้งที่ทุ่งมะขามหย่อง ทัพพระยานครตั้งที่ปากน้ำพุทธเลา ทัพนันทสูตั้งที่ขนอนบางลาง ทัพพระเจ้าตองอูตั้งทุ่งชายเคือง ทัพพระมหาอุปราชาตั้งที่ขนอนบางตะนาว


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๕ ยุทธหัตถี (2557) ในปีพุทธศักราช 2129 พระองค์จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ไพร่พลกว่า 2 แสนข้ามแดนเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหมายชิงคืนเป็นประเทศราช ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศทรงใช้พระนครเป็นยุทธภูมิรับศึก และวางยุทธศาสตร์ตั้งรับในเชิงรุก คือมิทรงปล่อยให้ทัพหงสาที่ล้อมกรุงเป็นฝ่ายรุกรบแต่ฝ่ายเดียว แต่ทรงแต่งกองโจรบุกปล้นค่ายศัตรูให้ต้องตกเป็นฝ่ายรับจนมิอาจรุกเข้าเหยียบถึงคูพระนคร เมื่อล้อมกรุงนานเข้า ทัพหงสาวดีก็ขาดเสบียง สมเด็จพระนเรศก็ทรงนำเรือปืนขึ้นไปยิงถล่มค่ายหลวงพระเจ้านันทบุเรงจนพม่าแตกระส่ำระสาย จอมทัพพม่าบาดเจ็บสาหัสถึงกับเสียพระสิริโฉมและทุพพลภาพ พม่าต้องถอนทัพกลับหงสาวดี และขณะเมื่อค่ายหลวงพม่าแตกนั้น “แม่นางเลอขิ่น” (อินทิรา เจริญปุระ) ก็ได้ช่องช่วย “พระราชมนู” (นพชัย ชัยนาม) จากพันธนาการคืนเข้าอยุธยาได้



ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๖ อวสานหงสา (2558) พ.ศ. 2135  หลังพ่าย “ศึกยุทธหัตถี” ฝ่ายหงสาวดี “พระเจ้านันทบุเรง” (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) ทรงโทมนัสที่ต้องสูญเสียพระราชโอรส จึงมีรับสั่งให้คลอกไฟเหล่าแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จ “พระมหาอุปราช” (นภัสกร มิตรเอม) ให้ตายตกตามกัน  ทั้งยังระบายพระโทสะไปที่ “พระสุพรรณกัลยา” (เกรซ มหาดำรงค์กุล) องค์ประกันและพระราชโอรสธิดาถึงสิ้นพระชนม์ชีพ ข้าง “สมเด็จพระนเรศวร” (พันโท วันชนะ สวัสดี) นั้น มีพระราชประสงค์จะนำทัพปราบหงสาวดีให้ราบคาบมิให้ตกค้างเป็นเสี้ยนหนาม ครั้นมาได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระพี่นางและพระราชนัดดาก็ยิ่งโทมนัส จึงตัดสินพระทัยยกทัพใหญ่ หมายเหยียบหงสาวดีให้ราบเป็นหน้ากลอง ในระหว่างที่เดินทางมาถึงเมืองเมาะตะมะได้จับตัว “พระยาลอ” ผู้สำเร็จราชการแทน ที่ “พระเจ้านันทบุเรง” ส่งให้มาปกครองเมือง ถูก “เม้ยมะนิก” (เต็มฟ้า กฤษณายุธ) ราชธิดาของ “ศิริสุธรรมราชา” เจ้าเมืองเมาะตะมะลอบสังหารเพื่อแก้แค้นแทนบิดา พร้อมรวบรวมชาวรามัญเพื่ออาสาขอเข้าร่วมรบพม่ากับชาวอโยยา

 เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงล่วงรู้ก็ทรงมีพระราชดำริที่จะตัดไฟเสียแต่ต้นลมไม่ให้อธิราชศัตรูพลิกฟื้นขึ้นมาเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินอยุธยาได้อีก สมเด็จพระนเรศวรจึงได้เสด็จยกกองทัพไปตีอังวะ ครั้งนั้น “พระมหาเถรคันฉ่อง” (สรพงษ์  ชาตรี) และ “พระอัครมเหสีมณีจันทร์” (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ก็ทูลขอให้งดซึ่งราชการสงคราม สมเด็จพระนเรศวรจึงทรงให้สัญญาว่าจะเสด็จไปทำศึกครานี้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็ยั้งทัพจัดกระบวนอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้ทัพสมเด็จพระเอกาทศรถยกขึ้นไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหางตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว  อยู่มาสมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรจึงโปรดให้ข้าหลวงรีบเชิญเสด็จพระเอกาทศรถมาเฝ้า ครั้นมาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวรก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สมเด็จพระเอกาทศรถจึงได้อัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรกลับกรุงศรีอยุธยาราชธานี

👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ ข่าวภัยธรรมชาติ

Comments

Popular posts from this blog

รีวิว The Coldest Game ( เกมลับสงครามเย็น ) อิงประวัติศาสตร์สงครามเย็น

The Coldest Game – เกมลับสงครามเย็น Netflix ภาพยนตร์อาชญากรรมคุณภาพและชาญฉลาด อิงประวัติศาสตร์สงครามเย็น ผ่านการแข่งขันหมากรุกระหว่างสองชาติมหาอำนาจของโลก ภาพยนตร์ระทึกขวัญจากประเทศโปแลนด์ โดย Netflix เรื่องราวเกี่ยวกับยุคสงครามเย็น ดำเนินเรื่องโดย Joshua Mansky อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ เขาได้เป็นตัวแทนสหรัฐในการแข่งขันหมากรุกกับสหภาพโซเวียต แต่ในการแข่งขันมีอะไรที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองและสถานการณ์ความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้น การหาตัวคนทรยศภายในทีม และหาทางหยุดความขัดแย้งระดับโลกนี้ไว้ เรื่องราว ในปีพ. ศ. 2505 ในช่วงสงครามเย็นนักหมากรุกชาวอเมริกันโจชัวแมนสกี เดินขึ้นไปบนเวทีไปยังโต๊ะที่คู่ต่อสู้ของโซเวียตนั่งอยู่แมนสกีเข้าร่วมกับคู่ต่อสู้ของเขาและมองไปที่มือที่เปื้อนเลือดของเขาเองอย่างประหม่า เจ็ดวันก่อนหน้านี้แมนสกีอยู่ในบาร์และปิดการรายงานข่าวทางทีวีเกี่ยวกับการแข่งขันหมากรุกระหว่างปรมาจารย์ชาวอเมริกันจอห์นโคนิกส์เบิร์กและยูริกราฟริรอฟผู้ท้าชิงของโซเวียต เขาชนะเกมไพ่ในขณะที่ล้อเล่นเกี่ยวกับซาร์บอมบาแห่งโซเวียต เมื่อแมนสกีออกจากบาร์เขาก็ถูกลักพาตัวไปในรถ จากนั้นเขาก็ถู...

รีวิว กูแฮรยอง นารีจารึกโลก (Rookie Historian Goo Hae-ryung)

แนะนำซีรี่ย์เรื่อง  Rookie Historian Goo Hae Ryung ซีรี่ย์พีเรียดโรแมนติกเรื่องใหม่ของ ชินเซคยอง-ชาอึนอู พระเอกคือเจ้าชายโดวอนอีริม เจ้าชายที่ไม่มีใครสนใจ ถูกกักบริเวณไว้ไนตำหนัก ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครใส่ใจ ต่อสู้ไม่เป็น ซึ่งเหมือนจะมีปมอะไรซักอย่าง แต่พี่ชายที่เป็นองค์รัชทายาทดูจะเอ็นดูเป็นพิเศษ องค์รัชทายาทก็เก่ง ฉลาด ดูดีเหลือเกิน ส่วนพระเอกชอบเขียนนิยาย และได้เขียนนิยายรักโรแมนติกออกมาขาย โดยเรื่องราวของ กูแฮรยอง อาลักษณ์หญิงในวัง ด้วยความที่เป็นผู้หญิงทำให้เธอถูกมองว่าไม่เหมาะสม แต่เธอก็ไม่หวั่นและทำหน้าที่ในการเป็นนักประวัติศาสตร์ของเธออย่างเต็มที่ องค์ชาย อีริม เป็นองค์ชายที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่เขาแอบเขียนนิยายรักโรแมนติกขายให้คนอ่านติดใจ จนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ในขณะที่นางเอกเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ ฉลาด เก่ง แต่วิจารณ์นิยายพระเอกเละเทะว่าเป็นเรื่องน้ำเน่าไร้สาระ เลยเป็นศัตรูกันตั้งแต่เริ่มเรื่อง นางเอกเป็นพวกหัวตะวันตก ไม่ยอมแต่งงาน โชคดีที่สอบเป็นอาลักษณ์หญิงได้ เข้ารับราชการในวัง  แต่กลับถูกคนทั้งวังดูถูก เพราะเป็นผู้หญิง ในสมัยก่อนผู้หญิ...

รีวิว six flying dragon (6 มังกร กำเนิดโชซอน) สปีชก่อนตายของกิลแทมี ยอดนักดาบแห่งเกาหลีในช่วงปลายยุคอาณาจักรโครยอ

แนะนำซีรี่ส์เกาหลีแนวพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ที่เพื่อน ๆ บางคนอาจพลาดไปกับเรื่อง  six flying dragon  6 มังกร กำเนิดโชซอน เป็นซีรี่ส์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ มีทั้งช่วงชิงอำนาจ ชิงไหวชิงพริบ กลวิธีต่าง ๆ ที่ทำให้เราถึงกับ ว้าวววว มีวลีเด็ดถึงใจ ถ้าใครชอบแนวนี้บอกเลยว่าควรค่าแก่การดูอย่างมาก โดยเรื่องราวเล่าผ่านตัวละคร 6 ตัวที่แสดงเอกลักษณ์ได้อย่างชัดเจนและลงตัว โดยเรื่องราวเหตุการณ์วุ่นวายตั้งแต่ยุคปลายราชวงศ์โครยอไปจนถึงต้นราชวงศ์โชซอน โดยนำเสนอผ่านเรื่องราวของ 6 ตัวละครที่ร่วมมือกันสถาปนาราชวงศ์ "โชซอน" แต่ภายหลังได้เกิดความขัดแย้งด้านอุดมการณ์และแนวคิดทางการเมืองระหว่าง "ลี บังวอน" กับ "ชอง โดจอน" โดยชอง โดจอนเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้บิดาของบังวอน "ลี ซองกเย" (พระเจ้าแทโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน) ก่อตั้งและสถาปนาอาณาจักรโชซอนได้สำเร็จ ชอง โดจอนต้องการให้เหล่าขุนนางในราชสำนักช่วยกันขับเคลื่อนบ้านเมือง (ทุกเรื่องต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาขุนนาง) ขณะที่บังวอน  (ภายหลังคือ "พระเจ้าแทจงแห่งโชซอน")  ต้องการรวบอำนาจในการบริหารบ้านเม...