เล่ห์ลุนตยา ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์แห่งปี หนึ่งในซีรีส์ชุดผีผ้า บทประพันธ์ชื่อดัง พงศกร ที่มีแรงบันดาลใจมาจากเบื้องหลังความเป็นมาของวัฒนธรรมผ้าพม่าที่ละเอียดอ่อน ละครที่หลายคนจับตามอง นำแสดงโดย ยุ้ย จีรนันท์ ประชันบทบาทกับนางเอกสาว วาววา ณิชารีย์ ที่มาฝากฝีมือการแสดงที่หน้าจอช่อง 8 เป็นครั้งแรก เรื่องราวของอาถรรพ์ผ้าลุนตยา สีชมพูที่มาพร้อมเรื่องราวสุดลี้ลับที่รอการค้นหาคำตอบ และทุกฉากทุกตอน ล้วนสนุก น่าติดตาม กระตุ้มต่อมแฟนละครให้ตามต่อทุกอีพี สิ่งหนึ่งที่มากกว่าความสนุก ละครเรื่องนี้ยังได้เดินทางพาผู้ชมไปสู่เกร็ดความรู้ วัฒนธรรม แบบไม่รู้ตัว เปรียบเหมือนห้องสมุดที่เป็นแหล่งความรู้ สื่อสารผ่านความบันเทิงทำให้คนดูเพลิดเพลินแบบเนียน ๆ เรียกว่าดูละครจบปุ๊ป ได้สาระปั๊บ
เห็นได้ว่าในละครเรื่องเล่ห์ลุนตยา เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าลุนตยาโดยตรง แต่มั่นใจว่า น้อยคนที่จะรู้จักที่มาของผ้าลุนตยา ว่าเป็นมาอย่างไร เพราะไม่ใช่ผ้าที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย ผ้าลุนตยา หรือ "ลุนตยาอเชะ" ผ้าทอร้อยกระสวยของราชสำนักพม่า ในยุคจารีตของพม่า ผ้าทอลุนตยาอะเชะสงวนไว้สำหรับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ หรือสำหรับพระราชทานแก่ขุนนาง สามัญชนไม่สามารถนำไปสวมใส่ได้ เพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎมณเฑียรบาล จะมีบทลงโทษ จากในละครเล่ห์ลุนตยา สังเกตได้ว่า บุคคลที่ใส่ผ้าลุนตยา ก็จะมีแต่ตัวละคร ที่เป็นชนชั้นสูงเท่านั้น โดยผ้าลุนตยา ที่เจ้าหญิงมินพยูได้สวมใส่ในเรื่องเป็นสีชมพูกลีบกุหลาบ เป็นเทคนิคการทอแบบชนชั้นสูง ใช้คนทอพร้อมกันถึง 2 คน ในเวลาเดียวกัน การทอต้องทอจากด้านหลังของชิ้นงานเมื่อต้องการมองลายก็ต้องใช้กระจกส่องลายด้านล่าง ลุนตยาอชิค หรือ อะฉิก แปลว่าคลื่น สื่อถึงท้องคลื่นและแสดงนัยยะ ทางพระพุทธศาสนา คลื่นและลวดลายเหมือนทะเลสีทันดร และ เขาสัตตบริภัณฑ์ ทั้ง 7 รอบเขาพระสุเมรุ
เรื่องประเพณีและวัฒนธรรม หากใครที่เป็นแฟนนิยายนักอ่าน ก็จะได้สัมผัสกลิ่นอายของประเพณีและวัฒนธรรมแบบเต็มเปี่ยม หากแต่ในละคร ได้หยิบยกฉากสำคัญ ๆ ที่หลายคนคงได้ดูกันนั่นคือ พระราชพิธีเจาะพระกรรณ ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีสำคัญ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีพระราชพิธีนี้อยู่จริง กล่าวคือ พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ ซึ่งทรงได้รับการกล่าวขานว่าเป็นกษัตริย์นักรบที่เก่งกาจ เพราะตลอดรัชกาลพระองค์ทำสงครามเป็นส่วนใหญ่ โดยก่อนขึ้นครองราชย์ เมื่อเจริญพรรษาขึ้น ราว15พระชันษา ทรงกระทำพิธีเจาะพระกรรณ(เจาะหู) อันเป็นราชประเพณีของพม่าเช่นเดียวกับพระราชพิธีโสกันต์ของไทย หรือแม้กระทั่งการสักลายของชาวพม่า ที่ในเรื่องจะได้เห็นมินพัยู สักสะกดวิญญาณของเอละวินไว้ให้อยู่ทุกข์ทรมาน และไม่ตาย และฉากย้อนอดีต ที่ติณโณสักมนต์กำบังกาย ให้กับ เจ้าหญิงมินพยู แต่ก็ไม่สำเร็จ จนทำให้ตัวอัปรีย์เข้าจนกลายเป็นอาเพศ นั่นแสดงให้เห็นว่า ชาวพม่านิยมสักลายตามจุดสำคัญทั่วตัวเช่น ต้นคอ ไหล่ ท้ายทอ หัวจรดเท้า เชื่อว่าเป็นการป้องกันอันตราย อยู่ยงคงกระพัน และเชื่อว่าการสักนั้นมีไสยเวทย์อาคม คล้ายกับเครื่องรางของขลังรวมถึงมีการลงโทษนักโทษด้วยการสัก
พร้อมกับได้เรียนรู้เรื่องภาษาในละครเรื่องเล่ห์ลุนตยาจะมีคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นหูมากมาย ที่ตัวละครใช้พูดสื่อสารกันในแต่ละฉาก ยกตัวอย่างฉากที่เอละดา ยกสำรับมาให้คุณเทียด แต่คุณเทียดก็ไม่ทานบอกว่าจะเอาไปถวายนัต โดยความหมายของนัต แท้จริงแล้วหมายถึง ผีอารักษ์ในสังคมพม่า คือเหล่าเทพเทวบนชั้นฟ้าผู้ปะเสริฐ และวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผู้ตายร้าย ภูติปุถุชน ที่มีความกึ่งเทพกึ่งผี ซึ่งในละคร ตัวละครคุณชวดเอละวิน นั้นหมายถึงดวงวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยู ที่ตนรักและเคารพนั่นเอง หรือจะเป็นคำว่า เล็บปยา หรือ เล็บยา ที่ในละครเล่ห์ลุนตยา ได้เล่าไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยว่า หากใครที่นำผ้าลุนตยาไปใส่ จะทำให้เล็บยานั้นหายไปจนสติฟั่นเฟือน ดั่งตัวละครอะพิณยาที่เป็นเพื่อนกับเอลดาในวัยเด็กที่หยิบผ้าลุนตยามาใส่เล่นจนทำให้ถูกโขมยเล็บยา จนสติฟั่นเฟือน โดยเล็บยาแปลว่า ผีเสื้อเนื่องจากสามารถโบยบินออกจากสิ่งที่เกาะอยู่ได้ หากร่างกายได้รับการกระทบกระเทือน ก็จะส่งผลให้จิตใจได้รับผลกระทบ หากโบยบินหายไปจากร่างกายทำให้ร่างกายมีสภาพไม่มีชีวิตชีวา เหม่อลอย เจ็บป่วย หรือมีอาการทางจิต วิธีการรักษาทางจิตใจด้วยการให้กำลังใจ ที่เรียกว่า เรียกขวัญ หรือ สู่ขวัญ เพื่อให้ขวัญโบยบินมาสู่ร่างกาย อ้างอิงหนังสือ : พม่าอ่านไทย
👉👉 ติตตามสนับสนุนได้ที่นี่ ข่าวภัยธรรมชาติ
Comments
Post a Comment